บทความ

บทความ

ความรู้เกี่ยวกับ FRP

ความเป็นมาของ FRP

 

             การใช้ FRP เป็นครั้งแรกในการเสริมแรงเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2518 ในรัสเซีย ที่นั่น มีการใช้เอ็นอัดโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว (GFRP) เพื่อเสริมความแข็งแรงสะพานไม้ติดกาวยาว 30 ฟุต (9 ม.)

             การศึกษาที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้ FRP ในการเสริมแรงเริ่มขึ้นในยุโรปในทศวรรษที่ 1980 เพื่อเป็นทางเลือกแทนการยึดเกาะแผ่นเหล็กสำหรับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแกร่งของสะพาน การเสริมแรงด้วยไฟเบอร์กลาสได้รับการสนับสนุนที่สำคัญในช่วงปี 1990 จากการวิจัยโครงสร้างสนับสนุนรถไฟแบบแม่เหล็กลอย (maglev) ในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นในปี 1996 เป็นคนแรกที่แนะนำแนวทางการออกแบบสำหรับคอนกรีตเสริมเหล็ก FRP

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การใช้ FRP เป็นการเสริมแรงโครงสร้างได้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ และแนวทางการออกแบบได้รับการจัดทำขึ้นโดยองค์กรต่างๆ จากทั่วโลก

 

FRP คืออะไร

         FRP ( Fiber Reinforce Polymer ) คือ พอลิเมอร์เสริมไฟเบอร์ เป็นวัสดุคอมโพสิตที่ประกอบด้วยสารอินทรีย์ โพลีเอสเตอร์ ทนความร้อน ไวนิลเลสเตอร์ ฟีนอล และอีพอกซีเรซิน ทำให้เกิดคุณสมบัติของวัสดุผสม FRP ที่มีความแข็งเทียบเท่าเหล็กหรือมากกว่าเหล็กและมีน้ำหนักน้อยกว่าเหล็ก FRP ถูกใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภทเช่น เรือเดินทะเล อุตสาหกรรมท่อ และ งานก่อสร้าง เนื่องจากมีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อมที่ดี ทนต่อความเสียหายได้ดี มีความแข็งแรง ทนต่อกรดกัดกร่อนได้อย่างดี

 

คุณสมบัติของ FRP   

 FRP ดีอย่างไร?

  1. ด้านความแข็งแรง

          มีความต้านทานแรงดึงสูงกว่าเหล็ก

  1. น้ำหนักเบา

           มีความถ่วงจำเพาะเท่ากับ 1ใน 4 ของเหล็ก

     3.ความต้านทานการกัดกร่อน

           FRP เป็นวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีและมีความทนทานต่อบรรยากาศน้ำและความเข้มข้นทั่วไปของกรดด่างเกลือและ               น้ำมันและตัวทำละลายหลายชนิด ดังนั้น  FRP จึงถูกนำไปใช้กับการป้องกันการกัดกร่อนของสารเคมีในทุกด้านและใช้                   แทนเหล็กกล้า

     4.คุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ดี

           FRP เป็นวัสดุฉนวนชั้นเยี่ยมที่ใช้ทำฉนวน และยังมีความสามารถปกป้องคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดีภายใต้ความถี่สูง

     5.ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี

           การนำความร้อนของ FRP อยู่ที่ 1.25 ~ 1.67kJ / (m · h · K) ที่อุณหภูมิห้องซึ่งเป็นโลหะเพียง 1/100 ~ 1/1000 เป็นวัสดุ             ฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยมเป็นวัสดุป้องกันความร้อนที่ดีเยี่ยมและทนต่อการระเหยภายใต้สภาวะอุณหภูมิสูงพิเศษโดย                   ทันที 

           

  ข้อเสียของ FRP

      1. โมดูลัสยืดหยุ่นต่ำ

          โมดูลัสยืดหยุ่นของ FRP ต่ำ แต่สามารถสร้างความยืดหยุ่นให้เพิ่มขึ้นโดยการผลิตด้วยวัสดุเส้นใยที่มีโมดูลัสสูงหรือซี่โครง             เสริมแรง

 

 

เคยได้ยินเกี่ยวกับ Rebar Fiber ไหม?

Rebar Fiber คือ?

ความรู้เกี่ยวกับ Rebar Fiber

           เหล็กเส้นเหล็กกล้าคาร์บอนแบบดั้งเดิมที่ใช้ร่วมกับคอนกรีต ซึ่งมีความต้านทานแรงดึงประมาณ 10 ถึง 15% ของกำลังอัดเท่านั้น เมื่อลงน้ำหนักกับคานคอนกรีต มันจะโค้งงอ ด้านบนจะบีบอัดในขณะที่ด้านล่างของคานมีแรงดึง เมื่อเพิ่มเหล็กเส้นเข้าไป จะให้ค่าความต้านทานแรงดึงที่คานเพิ่มขึ้นแต่จำเป็นต้องมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเช่นกัน

           ข้อเสียอย่างหนึ่งของเหล็กเส้นคือสนิม เมื่อเวลาผ่านไป เหล็กเส้นสามารถสึกกร่อนได้ เมื่อสัมผัสกับน้ำ น้ำทะเล ความชื้น ดินเค็ม กรดต่างๆ 

          ดังนั้นจึงเกิดวัสดุทางเลือกด้วย เหล็กเส้นเสริมเส้นใยโพลิเมอร์ (FRP) นั่นก็คือ Rebar Fiber นั่นเอง ซึ่งเบากว่าเหล็กและไม่ผุกร่อน และคุณสมบัติของตัวมันเองที่ไม่รับความร้อนและแรงดึงที่สูงกว่าเหล็กเส้น 2 – 2.5 เท่า

 

 

FRP Rebar คือ?  

Rebar Fiber คือ?

Rebar Fiber ราคา?

 

           Rebar Fiber คือ พอลิเมอร์เสริมเส้นใย ผลิตขึ้นโดยการรวมตัว ของพอลิเมอร์อีพ็อกซี่เรซิ่นกับเส้นใยแก้ว ( Thermosetting ) ทำให้เกิดคุณสมบัติพิเศษ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทนต่อปฎิกิริยาเคมีได้ดี คงรูปหลังผ่านความร้อนหรือแรงดัน มีความแข็งแรงและรับแรงดึงได้สูงมาก                                   

คุณสมบัติของ FRP Rebar , Rebar Fiber

          ใช้งานได้เทียบเท่าเหล็ก ตามมาตรฐาน มอก. (Substitute for steel rebar) มีผลทดสอบจาก AIT และ คณะ วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

           Rebar Fiber มีราคาถูกกว่าเหล็ก

          Rebar Fiberไม่เป็นสนิม ทนต่อสภาวะ กรดและด่างของคอนกรีตและการกัดกร่อน

          Rebar Fiber รับแรงดึง 2 เท่าของเหล็กที่ขนาดเท่ากันทำให้สามารถลดขนาดวัสดุลงได้ (High Tensile strength) 

          Rebar Fiber มีแรงยึดเหนี่ยวที่ 80 กิโลกรัม/ตร.ซม.ทำให้ยึดติดกับคอนกรีตได้ดีกว่าเหล็ก (High Bonding  strength)                 Rebar Fiber มีอัตราการขยายตัว 2 – 6% เท่าคอนกรีตทำให้ลดโอกาสการแตกร้าว

          Rebar Fiber อายุการใช้งานมากกว่าเหล็ก ช่วยยืดอายุสิ่งก่อสร้าง

          Rebar Fiber น้ำหนักเบากว่าเหล็ก 7 เท่า

          Rebar Fiber มีน้ำหนักเบาทำให้สามารถขนส่งได้ครั้งละจำนวนมากลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง

          Rebar Fiber มีน้ำหนักเบาทำให้ใช้งานง่ายและประหยัดแรงงานในการติดตั้ง

          Rebar Fiber ลดเวลาในการทำงาน

          Rebar Fiber ประหยัดค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ตัด ผูก ประหยัดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

          Rebar Fiber ผลิตได้ความยาวตามต้องการทำให้ลดการสูญเสียระยะการต่อทาบ

 

ความรู้เกี่ยวกับ Wire Mesh Fiber.

Wire Mesh Fiber คือ? ไวร์เมชไฟเบอร์ คือ?

Wire Mesh Fiber ดีอย่างไร?  ไวร์เมชไฟเบอร์ ดีอย่างไร?

Wire Mesh Fiber ราคา? ไวร์เมชไฟเบอร์ ราคา?

Wire Mesh Fiber โรงงานผลิต โรงงานผลิตไวร์เมชไฟเบร์

ตะแกรง Wire Mesh Fiber ตะแกรงไวร์เมชไฟเบอร์

 

           Wire Mesh Fiber คือ พอลิเมอร์เสริมเส้นใย ผลิตขึ้นโดยการรวมตัว ของพอลิเมอร์อีพ็อกซี่เรซิ่นกับเส้นใยแก้ว ( Thermosetting ) ทำให้เกิดคุณสมบัติพิเศษ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ทนต่อปฎิกิริยาเคมีได้ดี คงรูปหลังผ่านความร้อนหรือแรงดัน Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ มีความแข็งแรงและ Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ รับแรงดึงได้สูงมาก Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้กับงานถนน Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้กับพื้นล่างอาคารสิ่งปลูกสร้าง Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้กับพื้นโรงงานอุตสาหกรรม Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้กับพื้นโกดัง Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้กับบ่อบำบัดน้ำเสีย Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้กับสระว่ายน้ำ Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้ทำพื้นถนนลานจอดรถ Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ใช้ทำลานกีฬา Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ สามารถใช้กับงานพื้นได้ทุกประเภท  

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ของเราผลิตจากเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 7,000 ตรม./วัน ทำให้สามารถจัดส่งให้ลูกค้าได้ทันต่อการใช้งานและลูกค้าสามารถสั่งผลิตหน้ากว้างและความยาวได้ตามต้องการ รวมถึงจำนวนตารางเมตรที่ต้องการทำให้ไม่สิ้นเปลืองส่วนเหลือเกินการใช้งาน

คุณสมบัติของ Wire Mesh Fiber

              Wire Mesh Fiber ไวร์เมชไฟเบอร์   มีราคาถูกกว่าเหล็ก

           Wire Mesh Fiber ไวร์เมชไฟเบอร์ ไม่เป็นสนิม ทนต่อสภาวะ กรดและด่างของคอนกรีตและการกัดกร่อน

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ รับแรงดึง 2 เท่าของเหล็กที่ขนาดเท่ากันทำให้สามารถลดขนาดวัสดุลงได้ (High                                               Tensile strength)

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์มีแรงยึดเหนี่ยวที่ 80 กิโลกรัม/ตร.ซม.ทำให้ยึดติดกับคอนกรีตได้ดีกว่าเหล็ก (High                                              Bonding  strength)

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ มีอัตราการขยายตัว 2 – 6% เท่าคอนกรีตทำให้ลดโอกาสการแตกร้าว

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ อายุการใช้งานมากกว่าเหล็ก ช่วยยืดอายุสิ่งก่อสร้าง

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ น้ำหนักเบากว่าเหล็ก 7 เท่า

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ มีน้ำหนักเบาทำให้สามารถขนส่งได้ครั้งละจำนวนมากลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ มีน้ำหนักเบาทำให้ใช้งานง่ายและประหยัดแรงงานในการติดตั้ง

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ลดเวลาในการทำงาน

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ประหยัดค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ตัด ผูก ประหยัดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ผลิตได้หน้ากว้าง , ความยาว ตามต้องการทำให้ลดการสูญเสียระยะการต่อทาบ

           Wire Mesh Fiber  ไวร์เมชไฟเบอร์ ระยะการต่อทาบ 1 ช่องตะแกรง